ใบเตยอาร์สยาม ป่วยแต่ต้องทำงานที่รับไว้ แพลนผ่าตัดกล่องเสียงและต่อมทอนซิล กลัวที่สุดคือเสียงจะไม่เหมือนเดิม
ใบเตยอาร์สยาม กับแฟนหนุ่มดีเจ แมน-พัฒนพล กุญชร ณ อยุธยา ควงคู่กันออกมางานอีกครั้งสำหรับนักร้องสาวสั้นเสมอหู ซึ่งนอกจากทั้งคู่จะอัปเดตถึงเรื่องความรักให้ฟังแล้ว สาวใบเตยยังเผยด้วยว่า ตอนนี้เธอกำลังป่วยแต่ต้องทำงานที่รับไว้ให้ถึงเดือนเมษายน หลังจากนั้นต้องเข้ารับการผ่าตัดกล่องเสียงและต่อมทอนซิลทันที ซึ่งกลัวที่สุดคือเสียงจะกลับมาไม่เหมือนเดิม

ด้านดีเจแมนเผยต่อว่า ตนคอยดูแลแฟนสาวอยู่ตลอด แต่อยากให้อีกฝ่ายออกกำลังกายเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันให้แข็งแรงไวๆ
เห็นว่าเดือนนี้คิวแน่นมาก 14 กุมภาพันธ์ เคลียร์คิวไว้หรือยัง ?
ใบเตย : “ตอนแรกพี่แมนติด แต่ใบเตยยังว่างอยู่ เพราะล็อกไว้ แต่ตอนนี้ว่างพร้อมกันแล้ว ก็โอเค”
แมน : “จะเลี้ยงย้อนหลังด้วย เพราะวันเกิดเราก็มีงาน เมื่อวานวันเกิดพี่ก็ไม่ได้ไป ก็เลยรอคุณพ่อคุณแม่ว่าง เดี๋ยวจะไปทำบุญและกินข้าวกัน”
เตรียมของขวัญเซอร์ไพรส์ไว้หรือยัง ?
ใบเตย : “ไม่บอกหรอก (หัวเราะ)”
วันเกิดที่ผ่านมา แมนอยากได้อะไรเป็นพิเศษไหม ?
แมน : “ไม่อยากได้อะไรแล้วครับ มีเขาก็พอแล้ว (ยิ้ม)”
หวานออกสื่อแบบนี้ เมื่อไหร่จะมีข่าวดี ?
แมน : “อย่างที่บอกเหมือนเดิมเลยครับ ยังเก็บเงิน ทำธุรกิจอยู่ อีกสักพักครับ ตอนนี้กำลังสนุกกับการทำบ้านให้พ่อแม่ ดูทุกอย่างให้ลงตัว ซึ่งเรารู้สึกว่าเราคบกันมาจนรู้แล้วว่า เขารู้เรากำลังทำอะไรอยู่ ก็สบายใจครับ เราคบกันด้วยความสบายใจก็สบาย”
เห็นช่วงนี้ใบเตยงานหนักจนไม่ค่อยสบาย ดูแลตัวเองยังไงบ้าง ?
แมน : “ผมดูแลตลอดนะครับ แต่อาจจะไม่ได้ไปด้วยในตอนที่เขาไปปาร์ตี้หรือไปไหนมาไหนต่างๆ แต่ทุกครั้งที่ป่วยผมก็จะไปหาคนแรกเสมอ ก็เป็นห่วงครับ วันนี้เขายังไม่สบายอยู่เลย ผมก็บอกให้เขาเบาๆ งานลง หลังจากนี้ก็อยากให้ออกกำลังกายให้มากขึ้น และดูแลตัวเองด้วยครับ”
ใบเตย : “เอาจริงๆ มันเป็นช่วงที่พีคโดยไม่รู้ตัวค่ะ หมายถึงว่าเรามีคิวละครต่อเลย เพราะฉะนั้นวันจันทร์, อังคาร, พุธ ต้องใช้พลังในการถ่ายละครอยู่แล้ว ตอนนั้นที่เรารับละคร เราก็ไม่คิดว่างานคอนเสิร์ตจะทุกวัน และมีวัน 2-3 งาน มันก็เลยทำให้เราไม่ได้ตั้งตัว จึงปล่อยเสียงร้องแบบตามมีตามเกิด ประคองเสียงไปในทุกๆ งานที่มีร้องเพลง งานเราแคนเซิลไม่ได้อยู่แล้วค่ะ ถ้าแคนเซิลก็จะโดนฟ้องแน่นอน จะหยุดก็ไม่ได้ คือใบเตยจะแอดมิทบ่อยมาก เพราะฉะนั้นไม่อยากจะทำให้เจ้าภาพเสียความมั่นใจ หรือเสียความเชื่อใจจากเราและบริษัท เราก็เลยต้องทนไปในทุกๆ วัน ร้องเสร็จก็ไอๆ จากนั้นก็ดื่มน้ำ เดี๋ยวก็ไปที่ต่อไป”
กลัวจะหนักเรื้อรังไหม ?
แมน : “ประกันหนีหมดแล้วตอนนี้”
ใบเตย : “กลัวมากค่ะ เพราะเรารู้สึกว่าตอนนี้แย่มากแล้ว คือคุยกับหมอว่าต้องผ่าตัดด้วย ผ่าตัดกล่องเสียงและทอนซิลออก เพราะมันทำให้ติดเชื้อง่าย อีกอย่างใบเตยป่วยง่ายอยู่แล้ว เราเจอไมโครโฟนสาธารณะที่คนใช้หมดทุกวัน เชื้อโรคจึงอยู่ตรงนั้นหมด พอมันขึ้นคอ จมูกเรา ก็จบแล้ว แต่คือ ณ วันนี้ต้องประคองงานให้จนถึงเดือนเมษายนให้ได้”
ถ้าผ่าตัดต้องงดใช้เสียงด้วยไหม ?
ใบเตย : “งดใช้เดือนหนึ่งค่ะ ตอนนี้คิวงานจะสิ้นสุดแค่เดือนเมษายนค่ะ และแพลนที่จะผ่าหลังจากนั้นเลยค่ะ ถามว่ากังวลไหม กังวลมากค่ะ คือทุกวันนี้ตื่นเช้ามาต้องกินยาฆ่าเชื้อ กินยาแก้ปวด ยาฉีดพ่นคอให้หายใจไม่ติดขัดไม่อย่างนั้นเดี๋ยวหลอดลมเราจะตีบ คือหนูต้องช่วยตัวเองเยอะมากในแต่ละวัน”
มีท้อหรือเหนื่อยบ้างไหม ?
ใบเตย : “ท้อมากนะ แต่ก็ต้องสู้ เพราะผ่านแล้วก็หายขาดแน่นอนในเรื่องการติดเชื้อ แต่สิ่งที่ใบเตยกลัวคือเสียงจะไม่เหมือนเดิม”
แมนบอกว่าเราต้องออกกำลังกาย เราจะลุกขึ้นมาออกกำลังหายไหม ?
ใบเตย : “อยากออกมากนะ แต่ไม่รู้จะลุกขึ้นมาช่วงไหนให้ได้ออกเลย ทุกวันนี้ขอแค่ให้ได้นอนยังหืดขึ้นคอเลย”
แมน : “เขาเล่นคอนเสิร์ตกลางคืน และต้องถ่ายละครแต่เช้า บางทีไปต่างจังหวัดต้องบินแต่เช้า การปรับเวลาก็เลยลำบากกว่าคนอื่น แล้วเตยเป็นคนที่ใช้ยาเยอะมาก คนปกติพ่นยาเช้า กลางวัน เย็น แต่ของเตยคือพ่นรัวๆ เยอะมาก จนยาเอาไม่อยู่ ดื้อยา แต่ก็ดีกว่าไม่มีงาน ซึ่งก็ต้องดูแลตัวเอง เพราะเดี๋ยวต้องผ่าตัด ก็ต้องออกกำลังกายก็น่าจะช่วยยืดระยะเวลาในการประคองตัวเองได้ การผ่าทอยซิลออกไปถามว่าจะกลับมาเหมือนเดิมได้ไหม ก็คงไม่ได้ แต่ถ้าเราต้องป่วยแบบนี้ไปตลอด ไม่ดีแน่นอน เพราะอายุเราก็เลย 3 แล้ว”
หลังผ่าตัดอาจจะต้องลดงานลงไหม ?
ใบเตย : “ก็คงต้องด้วยค่ะ แต่คือเราเป็นเด็กค่ายก็ลำบากนิดหนึ่ง ใบเตยเองอยากจะรับทุกงาน ทุกโอกาสที่เข้ามา แต่ถ้ารู้ว่าตัวเองเป็นภูมิแพ้ก็ต้องลดนิดหนึ่ง”
ผู้ใหญ่ว่ายังไงบ้าง ?
ใบเตย …